ใครที่กำลังออมกองทุนรวมในช่วงนี้อยู่ก็คงจะรู้สึกเซ็งๆกันใช่ไหมครับว่า ช่วงนี้ตลาดช่างผันผวนเหลือเกิน DCA แล้วจะเป็นอย่างไรบ้าง ในตอนนี้เราจะมาดูกันนะครับ โดยข้อมูลที่ผมนำมาอ้างอิงก็มาจากทางเวปไซต์ Wealthmagik โดยเอากองทุนตราสารทุนในไทยและต่างประเทศมาทดสอบนะครับ
เงื่อนไขในการจำลองก็คือ ผมจะลงทุน 10,000 บาท ในกรอบเวลา 5 ปี ตั้งแต่ เมษายน 2558 – เมษายน 2563 โดยเลือกลงทุนวันที่ 1 ของเดือนครับ มาดูกันว่ากองชื่อดังแต่ละกองจะเป็นอย่างไร มาดูกันครับ
1. SCBSET
- ต้นทุน 600,000
- ขาดทุน -16.99% (IRR -11.05%)
- มูลค่าตลาด 498,036.16
- เงินปันผล ไม่มี
2. 1AMSET50-RA
- ต้นทุน 600,000
- ขาดทุน -14.76% (IRR -9.62%)
- มูลค่าตลาด 511,414.43
- เงินปันผล ไม่มี
3. KFSDIV
- ต้นทุน 600,000
- ขาดทุน -18.69% (IRR -13.16%)
- มูลค่าตลาด 386,462.59
- เงินปันผล 101,379.59
4. TMBGQG
- ต้นทุน 600,000
- กำไร +13.34% (IRR +0.66%)
- มูลค่าตลาด 680,066.02
- เงินปันผล ไม่มี
5. ONE-UGG-RA (ข้อมูล 4 ปี)
- ต้นทุน 500,000
- กำไร +37.79% (IRR +10.44%)
- มูลค่าตลาด 688,935.50
- เงินปันผล ไม่มี
6. BCARE
- ต้นทุน 600,000
- กำไร +16.01% (IRR +0.82%)
- มูลค่าตลาด 696,051.99
- เงินปันผล ไม่มี
7. BTP
- ต้นทุน 600,000
- ขาดทุน -11.03% (IRR -7.67%)
- มูลค่าตลาด 533,801.81
- เงินปันผล ไม่มี
8. BMSCITH
- ต้นทุน 600,000
- ขาดทุน -17.24% (IRR -15.77%)
- มูลค่าตลาด 346,106.78
- เงินปันผล 34,589.21
เท่าที่ลอง Test มานะครับ กองทุนในไทยจะขาดทุนกัน ส่วนกองทุนต่างประเทศหลายๆกองกำไรนะครับ แต่ก็ต้องลองไปดูในรายละเอียดอีกทีนะว่ากองทุนนั้นๆมีนโยบายการลงทุนอะไร การยกตัวอย่างกองทุนในบทความนี้ไม่ได้ให้ลอกโดยไม่ได้ศึกษานะครับ แค่จะแสดงให้ดูว่าผลการดำเนินงานเป็นอย่างไร
ส่วนใครที่อยากรู้เรื่องการ DCA หุ้น ผมเขียนไปในบทความก่อนหน้านี้แล้ว ที่Back Test DCA ด้วย Application Settrade Streaming ซึ่งก็จะเห็นได้ว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ใครสนใจสามารถกลับไปอ่านได้เลยครับ >>> อ่านที่นี่