เชื่อไหมว่าการให้เด็กๆไปช่วยเราซื้อของโดยที่เราเล่าวิธีการซื้อพร้อมถามความเห็นให้เขาเขาร่วมตัดสินใจ จะทำให้เด็กได้ฝึกวิธีคิดในเรื่อง ความรู้รอบตัว การคำนวณด้วยตัวเลข การซื้อของอย่างคุ้มค่า การตัดสินใจ และเราสามารถสอดแทรกเรื่องการเก็บออมให้กับเขาได้ด้วย มาดูตัวอย่างกันนะครับ
เมื่อเราวางแผนพาลูกๆไปซุปเปอร์มาร์เก็ต เพื่อซื้อของมาทำสิ่งที่เขาชอบกินอย่าง “สปาเก็ตตี้เบคอน” เราก็สามารถสอนความรู้รอบตัวให้เขาได้รู้ว่า เขาจะต้องซื้ออะไรบ้าง เช่น เส้นสปาเก็ตตี้ เบคอน ใบโหรพา
แน่นอนว่าการซื้อของทุกครั้งเราจะต้องมีการจ่ายเงิน การสอดแทรกเรื่องการเงินให้กับลูกอย่างแรกก็คือ ให้ลูกลองเปรียบเทียบราคาของสินค้าชิ้นเดียวกันว่าแต่ละที่ราคาเท่าไหร่
- ขั้นตอนการเปรียบเทียบราคา
วิธีเช็คราคาง่ายๆก็คือการเปิดข้อมูลหาในเวปไซต์ของร้านค้าที่อยู่ในละแวกบ้านของเราว่าที่ไหนขายราคาเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นที่ Lotus, Big C, Home Fresh Mart
- เปรียบเทียบยี่ห้อเดียวกันในแต่ละซุปเปอร์มาร์เก็ต
- เปรียบเทียบยี่ห้อที่แตกต่างกันแต่มีขนาดสินค้าใกล้เคียงกัน
- ดูว่าที่ไหนมีส่วนลดราคาสินค้า หรือ Promotion ที่เหมาะสม
ตรงนี้จะเป็นการฝึกทักษะให้เด็กๆได้วางแผนก่อนการใช้จ่ายแลัได้เห็นว่าแต่ละที่มีการขายในราคาเท่าไหร่
- ให้ลูกช่วยคำนวณดูว่าซื้อของแต่ละที่ใช้เงินต่างกันไหม
สมมติเราได้ราคาของที่เราต้องการมาทั้งหมดแล้ว เราก็ต้องมาคิดและตัดสินใจร่วมกันว่าไปที่ไหนจะดีที่สุด ถ้าเราสามารถซื้อของทั้ง 3 อย่างในที่เดียวกันด้วยราคาถูกที่สุดและอยู่ใกล้บ้านที่สุดด้วยก็เป็นคำตอบที่เลือกได้ไม่ยาก
แน่นอนว่าในความเป็นจริงคำตอบอาจจะไม่ตายตัว บางอย่างซื้อที่นึงถูกกว่า บางอย่างถ้าจะซื้อถูกต้องเดินทางไปไกลกว่า ตรงนี้อยู่ที่การ Discuss ระหว่างเรากับลูกแล้วว่าจะให้เหตุผลในการตัดสินใจร่วมกันอย่างไรจนเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
- ลองมาดูว่าการตัดสินใจนั้นจะสร้างเงินออมให้กับเราแค่ไหน
ในการไปซื้อของแต่ละครั้งเราควรจะต้องมีงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ด้วยว่าจะใช้จ่ายเท่าไหร่ เช่น เราตั้งงบไว้ว่าการไปซื้อของครั้งนี้จะต้องไม่เกิน 500 บาท ถ้าเราได้เปรียบเทียบราคาร่วมกับลูกแล้ว จะต้องใช้จ่ายในการซื้อของครั้งนี้ 430 บาท เราก็สามารถบอกลูกได้ว่า เราจะมีเงินเก็ออมได้ 70 บาท
แต่ถ้าหากเราเจอร้านใกล้ๆที่กำลังจะมีการจัด Promotion ที่ของทั้ง 3 อย่าง รวมราคาที่ต้องจ่ายคือ 380 บาท นั่นก็หมายความว่าเราจะประหยัดไปได้ถึง 120 บาท แต่เราต้องรอวันรุ่งขึ้น ลองคุยกันดูว่ารอซักวันได้ไหม จะได้ของราคาถูกลงอีก
บทสรุป
เราจะเห็นได้ว่าหากเราสอนลูกให้รู้จักการเปรียบเทียบสินค้าต่างๆ และคำนวณราคาออกมาได้ เด็กๆจะรู้ฝึกการคิด รู้ว่าต้องจ่ายเงินเแต่ละทีท่าไหร่ และเมื่อเราตั้งงบประมาณเอาไว้ เขาก็จะคำนวณต่อได้ว่า ที่ซื้อมามันอยู่ในงบประมาณไหม? แล้วเหลือเท่าไหร่ที่สามารถประหยัดได้ในการซื้อครั้งนี้ ตรงนี้จะได้เรื่องการออมด้วย
ลองเริ่มจากการเปรียบเทียบเล็กๆน้อยๆก่อนก็ได้ ให้เขาได้เห็นว่า ซื้ออะไร ต้องจ่ายเงินเท่าไหร่ และเหลือเงินเท่าไหร่ เราควรจะตัดสินใจเลือกหนทางไหน ภายใต้เงื่อนไขอะไร (ราคา เวลา ความสะดวก ขึ้นอยู่กับคำอธิบายของพ่อแม่)
ลองดูกันนะครับ เผื่อจะมีคนเอาไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับบุตรหลานของตัวเอง
สนใจอยากให้ลูกรู้เรื่องการเงินไหม?
MoneyTree หลักสูตรทางการเงินจากประเทศสิงคโปร์ เป็นอีกหลักสูตรหนึ่งที่ทำให้ลูกคุณฉลาดเรื่องการเงินได้
หากคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนอยากได้ข่าวสาร การจัดกิจกรรมของทาง MoneyTree สามารถกรอกรายละเอียดของท่านได้ที่ Form นี้นะครับ http://bit.ly/2Rei8Zp