ตอนนี้มันก็จะสิ้นปีแล้ว หลายคนบอกว่าปีนี้เป็นปีที่ลงทุนยาก ก็ยากจริงๆนั่นล่ะเพราะถ้ามาดูดัชนี SET ในปีนี้มันก็เป็นขาลงตั้งแต่ต้นปีเลย มีทั้งเรื่องผลกระทบจากสงครามการค้าและเรื่องนักท่องเที่ยวจีนลดลง และในวันที่เขียนบทความก็เป็นวันที่หุ้นแดงเลือดสาดเช่นเดียว แต่อย่างไรก็ตามถ้าหากชีวิตยังไม่สิ้นก็ยังต้อนดิ้นกันไปละนะ
หลายคนก็คงยังลงทุนแบบ DCA อยู่ ก็ยังร้อนๆหนาวๆว่าปีนี้มันยังไงกันแน่ พรี่ก็เลยไปลองดูว่าหากเราลงทุนแบบ DCA ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปลายปีนี้ หุ้นยอดฮิตที่ชาว DCA ชอบกันจะได้ผลตอบแทนอย่างไรบ้าง โดยเงื่อนไขกำหนดว่า
- ลงเดือนละ 1,000 บาท (ต้นทุน 12,000 บาท)
- ไม่ได้คิดค่าคอมมิชชั่นในการคำนวณ
- ลงทุนวันที่ 5 ของเดือนหรือวันทำการถัดไป
- ใช้ราคาปิดวันที่ 6 ธันวาคม เป็นตัววัดผล
- การคำนวณใช้ Excel วัดผลคร่าวๆ อาจมีความคาดเคลื่อน
- ข้อมูลราคาจากเวปหุ้นปันผล
หมายเหตุ : บทความนี้ให้ดูของมุมราคาเท่านั้น ไม่ได้แสดงเรื่องพื้นฐานและผลการดำเนินงาน แถมยังเป็นแค่การจำลองช่วงสั้นๆเพียงแค่ 1 ปีด้วย อย่าเอาผลตรงนี้ไปตัดสินใจลงทุนทันทีนะครับ
หุ้นยอดฮิตของนักลงทุนชาว DCA ก็หนีไม่พ้นหุ้นในกลุ่ม SET50 มาดูตัวอย่างกันว่าเป็นอย่างไร ผมยกตัวอย่าง BDMS CPALL BEAUTY HMPRO AOT มานะครับ
BDMS
- ราคาเฉลี่ย 24.30
- ราคาปิด 26.75
- มูลค่าพอร์ต 13,209
- กำไร 1,209 (+10.08%)
- เงินปันผล 80.33
CPALL
- ราคาเฉลี่ย 76.07
- ราคาปิด 70.75
- มูลค่าพอร์ต 11,160
- กำไร -840 (-7%)
- เงินปันผล 53.4
BEAUTY
- ราคาเฉลี่ย 12.50
- ราคาปิด 8.85
- มูลค่าพอร์ต 8,499
- กำไร -3,501 (-29.18%)
- เงินปันผล 139.64
HMPRO
- ราคาเฉลี่ย 14.30
- ราคาปิด 15.2
- มูลค่าพอร์ต 12,754
- กำไร 754 (+6.29%)
- เงินปันผล 506.76
AOT
- ราคาเฉลี่ย 67.33
- ราคาปิด 65.25
- มูลค่าพอร์ต 11,629
- กำไร -371 (-3.1%)
- เงินปันผล 187.13
จะเห็นได้ว่า แม้ SET จะลง แต่ก็มีหุ้นบางตัวที่ไม่ได้ลงนะครับ และก็มีหุ้นบางตัวที่ลงหนักเอาการมากๆ ก็อย่างที่บอกล่ะครับว่าการลงทุนมีความเสี่ยง เราต้องไม่ลืมการจัดพอร์ตการลงทุนนะครับ อย่าลงทุนในหุ้นแค่ตัวเดียว
ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนในการลงทุนนะครับ พอใจผลงานในปีนี้กันไหมครับ ไปเที่ยวกันเถอะ จุฟๆ
Source : หุ้นปันผล
พื้นที่โฆษณา
สนใจบัตรเครดิตสมัครได้ที่ >>> CitiBank