ทุกคนคงจะทราบดีอยู่แล้วว่า “การลงทุนมีความเสียว” และบางทีก็ไม่ค่อยจะอยากศึกษาห่าอะไรก่อนการลงทุนกันหรอก จะซื้อหุ้น ซื้อกองทุน หรือซื้อ LTF RMF เพื่อลดหย่อนในปลายปี ก็เห็นคุณนายทั้งหลายเปิดดูแค่ผลตอบแทนแค่นั้นล่ะว่าอะไรได้ผลตอบแทนเยอะๆ พอถึงช่วงเวลาที่หุ้นตก แบบถูกตลาดขยี้ราคาลง -10% -20% ก็จะเริ่มมาตั้งกระทู้กันละว่า
- หุ้นจะลงอีกไหมคะ
- ดอยค่ะ ทำไงดีคะ
- มันจะขึ้นเมื่อไหร่คะ
- ขาย LTF ทิ้งจะมีผลต่อภาษีไหมคะ
คำถามพวกนี้มันก็ทำให้เราต้องคำนึงด้วยว่า การลงทุนมันไม่ได้มีแค่เรื่องผลตอบแทนเท่านั้น แต่มันมีในด้านขาดทุนด้วย มันก็จะแสดงออกมาในรูปแบบของความผันผวน แต่ถ้าจะเอาลงลึกกระแทกมิดด้ามสุดๆแบบจุดสุดยอดจนถึงการมิดสุดลำ ข้อมูลของกองทุนรวมก็มีทำสถิติไว้ ลองดูที่ข้อมูลสำคัญในการลงทุนแล้วไปดูตัวเลขที่
“การขาดทุนสูงสุดในช่วงระยะเวลา 5 ปี”
ตัวอย่างจากข้อมูลสำคัญการลงทุน
ในส่วนนี้จะเห็นได้ว่าในช่วงเวลา 5 ปี กองทุนนี้ถูกตลาดขย่มจนมิดด้าม ลงลึกถึง -21.62% ลองจำลองคิดง่ายๆว่า หากซื้อกองทุนช่วงจุดสุดยอดของราคาด้วยเงินลงทุนที่ 10,000 บาท แล้วมันเหลือ 7,838 ในเวลาต่อมา ก่อนจะฟื้นคืนชีพแล้วเรารับความเสียวตรงนี้ได้ไหม
ตัวอย่าง การขาดทุน 5 ปีสูงสุดของกองทุนต่างๆ (บทความนี้เขียนตอนกันยายน 2561)
- KS20LTF : -21.62%
- B-LTF : -22.49%
- T-LowBetaLTFD : -10.45%
- KFLTFA50-D : 14.87%
- JB25 LTF : -27.94%
- UOB LTF : -18.00%
จะเห็นได้ว่ากองทุนที่เป็นตัวอย่าง มีโอกาสขาดทุนได้สูงสุด ตั้งแต่ประมาณ 10% จนถึงเกือบ 30% ไม่ได้บอกว่า ต้องกลัวนะ อย่าไปซื้อ แต่ให้เรารู้ว่ามันเป็นความเสี่ยงและรับทราบไว้
เราเอาตรงนี้ไปประกอบการพิจารณาความเสี่ยงอีกด้านด้วยนะคะ อย่ามองแค่กองทุนไหนผลประกอบการเลิศเพียงอย่างเดียว ยิ้มเก่งๆผลตอบแทนดี ก็พาเสียวลึกสุดลำจนระทวยถึงหัวใจได้เช่นกัน
รู้จักความเสียวกันแล้วก็ลองนำไปพิจารณาการเลือกกองทุนรวมของพวกเธอด้วยนะจ๊ะ เป็นกำลังใจให้รวยๆๆๆๆๆๆทุกคน
ปล. ความเสียวอยู่ที่ใจและเงิน
พื้นที่โฆษณา
สนใจบัตรเครดิตสมัครได้ที่ >>> CitiBank